Saturday, January 14, 2012

วันเด็ก วัยเด็ก

วันเด็กมาถึงอีกแล้ว เป็นวันที่เราตื่นเต้นทุกครั้ง แต่เราไม่เคยได้มีโอกาสไปงานวันเด็กหรอกนะ ตั้งแต่เล็กจนโตมาจนบัดนี้ก็ย่าง 26 แล้วสินะ (จะ 26 เลยก็เกรงใจ อิอิ ) บ้านเราลำบากไม่ว่าวันไหนๆเราก็ต้องทำงาน ช่วยที่บ้าน แต่เราไม่เคยรู้สึกอะไรนะ ไม่เสียใจ ไม่งอแง มันอาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ไม่เคยรู้รับรู้ว่า วันเด็กต้องทำอะไรกัน เมื่อก่อนเราอยู่บ้านย่า ย่าเราขายก๋วยเตี๋ยว ขายโจ๊ก และข้าวหมูแดงขายดีมากๆ อันนี้ไม่ได้โม้ ...หน้าที่เราคือตื่นแต่ตี 5 เพื่อมาตลาดพร้อมย่า ช่วยจัดร้าน เรียงช้อนเรียงตะเกียบ จากนั้นก็จัดเซตข้าวหมูแดงใส่ถุง ราคาถุงจะ 10 บาทมั้งจำไม่ค่อยได้แระ ก็จะมีข้าว โป๊ะหมูแดง 4-5 แผ่น ไข่ครึ่งซีก แตงกว่าแล้วก็น้ำซอส ประมาณ 7โมงย่าทำเราจะทำโจ๊กแบบพิเศษให้เรากิน คือตอกไข่ลงไปแล้วคนให้สุกข้าวแบบเละๆ ใส่หมูสับเยอะๆ ตับหมูด้วย แล้วก็ไข่ดิบต่างหากอีกฟอง เรากินแบบนี้ทุกวัน ประมาณ8.30 ป๊าก็จะมารับไปโรงเรียน เราไปสายทุกวันเลยอะ ไม่เคยทันเพลงชาติ ทำไงได้คนมันต้องทำมาหากินนิเนอะ 

วันเสาร์เป็นวันที่เราต้องช่วยแบบเต็มที่ เต็มวัน อาเราเค้าขายน้ำแข็งไส และไอศกรีมกะทิ  เราต้องวิ่งช่วยทั้งสองร้านเพราะวันเสาร์เป็นที่คนเยอะมาก เค้าจะออกมาจ่ายตลาดกัน ออกมาขายน้ำยาง ออกมาจากสวน ใครๆก็จะเอาขนมมาฝากย่าเรา  ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่เลยตักไอติมก็ไม่ถึงต้องใช้เก้าอี้รอง มีความพยายามมากๆ ใครเดิอนผ่านก็ชม...ดูซิตัวแค่นี้เองขยันจังเลย ...ได้ยินแบบนี้ทีไรทำให้เรารู้สึกว่าเราเหนือกว่าคนอื่น ทั้งๆที่คนอื่นรวยกว่าเรา

มาถึงน้ำแข็งไสที่ร้านจะมีเครื่องอยู่ 5-6อย่าง นึกแล้วก็อยากกินกว่าจะทำได้แต่ละถ้วยนะแขนขึ้นกล้ามเลยเพราะตอนนั้นยังไม่มีเครื่องไฟฟ้า ต้องหมุนมือจ้า  ผ่านมาซัก2-3ปีก็มีเครื่องไฟฟ้ามาสบายมากๆ  ขายได้เยอะขึ้น เพราะทำได้เร็วขึ้น วันทั้งวันนี่วุ่นเลย ตักไอติมบ้าง ไสน้ำแข็งบ้าง น้ำส้มคั้น น้ำมะนาวปั่น ล้างแก้วอีกเยอะซะ..มือเปื่อยกันเลยทีเดียว  มาวันนี้บ้านเราดีขึ้น อาเราดีขึ้นทุกคน ความลำบากของเราสอนให้เราเป็นคนที่มีความอดทน และสู้งาน เชื่อมั้ย...ทุกวันนี้เราไม่เคยกลัวความจนเลย ไม่กลัวอด วันนี้เราอยู่ตรงนี้เรามีกิน มีใช้ ถ้าวันนึงเรากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนเราไม่กลัวเลย เราเชื่อว่าวันนึงเราต้องขึ้นมาได้อีก ไม่มีใครต้องจนตลอดไปหรอกนะ

ออกนอกเรื่องไปซะไกล จริงๆเรื่องราวไวเด็กของเรามีเยอะ ไว้ว่างๆจะมาเล่าอีก เข้าเรื่องวันเด็กดีกว่าจะบอกว่าตั้งแต่จำความได้เราเคยไปงานอยู่ 1 ครั้ง กลับมาโดนย่าดุเลยอะ ก็บอกแล้วว่าวันเสาร์ห้ามไปไหน ห้ามป่วย เพราะต้องช่วยกันทำงาน มันยุ่งมากๆๆๆ วันเด็กปีนั้นเราได้ไปบริษัทหาดทิพย์ เค้าแจกโค้กด้วยนะ เรากินเยอะมาก ได้ของรางวัลด้วย ดีใจมากๆ จากนั้นมาไม่เคยไปไหนวันเสาร์อีกเลย รู้สึกผิดมากๆ บวดกลัวด้วย 5555

ทุกวันเสาร์ย่าเราจะให้เงินไปฝากธนาคารออมสินสัแดาห์ละ 500 บาท ไม่เคยขาด โดยเฉพาะวันเด็กจะได้เยอะเป็นพิเศษแล้วได้กระปุกออมสินด้วย ชอบอะทุกวันนี้ธนาคารเค้าก็ยังแจกเหมือนเดิมเลยอะ พอเราโตมานะ ถ้าว่างเราจะไปงานวันเด็กทุกปีเลย แค่ขอไปเก็บบบรรยากาศก็ยังดีว่ะ อิอิ  ปีนี้เราทำงานแล้ว แล้วเราก็นั้งเขียนไดนี้ที่ออฟฟิศ 55อู้งานมา 

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าอยากนั่งรถถังบ้างอะ ....... 

Friday, January 13, 2012

รอ รอ รอ

เบื่อจังชีวิตนี้มีแต่เรื่องที่ต้องให้รอ รอ รอ รอ รอแล้วก็ไม่วมหวังอีกนะจะบอกให้ ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนา รอไม่มีที่สิ้นสุดไม่รู้ว่าต้องไปถึงเมื่อไหร่ เจ๊...ชั้นอยากบอกเธอว่าชั้นรอเธอนานมากแลวนะ รอจนชั้นรู้สึกว่าชั้นยังมีความหวังอีกมั้ย ชั้นควรจะหวังมั้ย เธอบอกว่าจะกลับมาตั้งแต่ตุลาที่แล้ว แล้วเธอก็เลื่อนมาจนธันวา ตั้งแต่เธอกลับมาเธอก้ไม่ว่างมาหาชั้นเลย ชั้นคิดถึงเธอนะเนี้ย ชั้นเบื่อกับการรอคอย ไม่ใช่ว่าชั้นรอใครไม่เป็นนะ แต่ชั้นรู้สึกว่าทุกคนให้ชั้นรอ 

.....ก่อนเธอจะกลับมาชั้นไม่กล้าวางแผนจะไปไหนเลยนะ ชั้นกลัวาจะไม่มีเวลาให้เธอ ชั้นกลัวเธอชวนชั้นไปไหนแล้วชั้นไม่ว่าง แล้วเป็นยังไงล่ะปีใหม่ที่ว่าจะไปเที่ยวกันเธอก็ไม่ว่าง หลังปีใหม่เธอบอกจะกินข้าว เธอก็ไม่มา ชั้นจะไปทำผมเธอก็บอกว่าทำพร้อมกันรอเธอก่อน เป็นยังไงล่ะ จนป่านนี้ยังไม่ได้ทำเลย  เฮ้อ ...ตรุษจีนนี้ชั้นกลับบ้านแล้วนะ เพราะชั้นก็ไม่รู้ว่าเธอจะมาหาชั้นมั้ย หรือเธอจะให้ชั้นรอเก้ออีก ที่เธอนัดชั้นหลังตรุษจีนอะ ชั้นรอเธอนะ หวังว่าเธอคงจะมีเวลาว่างให้ชั้นบ้าง ......อีเจ๊ชั้นยังรอเธอนะ

ตัวเองก็เหมือนกันปล่อยให้เค้ารอตัวเองมานานมากแล้วนะ  เมื่อไหร่จะกลับมา รอจนเซงแล้วเนี้ย ช่วงนี้ก็เป็นบ้าบออะไรไม่รู้โทรไม่ค่อยจะติด ตั้งแต่ก่อนปีใหม่มาแล้ว เมื่อก่อนตัวติดกันมาก โทรหากันตลอกเวลา เล่านิทานก่อนนอน เช้าโทรมาปลุก เที่ยงถามว่ากินข้าวยัง แต่เดี่ยวนี้วันนึงได้คุยรอบนึง แรกๆทำใจไม่ได้นะงอแงง็องเง็งบ้าบอ กว่าจะโทรติดปาไปตีหนึ่ง โทรติดแล้วตัวเองก็หลับใส่เค้า เค้าเสียใจมากเลย ตัวเองรู้มั้ยเค้าก็รอตัวเองตลอดเวลากว่าเราจะได้คุยกันมันลำบากขนาดไหน นี่ดันมาหลับใส่ แต่ตอนนี้เค้าเข้าใจแล้ว ...หรอ ..ถ้าตัวเองอ่านตัวเองคงจะหัวเราะแล้วบอกว่า โถ..แม่คุณที่บอกว่าเข้าใจอะ ไม่จริงเลย เพราะเพราะเค้ายอมตัวเองตะหาก อ๊ากๆๆๆ  ก็เค้าเป็นผู้หญิงนะ แล้วตลลดเวลาตัวเองก็ยอมเค้า ตามใจเค้า เค้าก็นิสัยเสียจะโทษใคร  ....จริงมะ

เมื่อวานกับวันนี้ตัวเองดีขึ้น ตัวเองมีความพยายามโทรหาเค้าเหมือนเดิม เค้าดีใจนะ เพราะการที่เค้าไม่ได้คุยกับตัวเองมันทำให้เค้าประสาทเสีย ..โอเค้  เค้ามีความในใจจะบอกด้วยนะ ว่า..เค้าสงสารตัวเองนะ วันนึงตัวเองต้องทำหลายอย่าง ตัวเองได้นอนวันละกี่ชั่วโมงเค้าก็ไม่รู้เพราะเค้าไม่เคยถาม อิอิ  เพราะถ้าเค้าถามเค้าก็ต้องสงสารตัวเอง แล้วก็ต้องให้ตัวเองนอน ไม่ต้องคื่นมาปลุกเค้า ...แต่เค้าทำใจไม่ได้อ่า ถ้าตัวเองไม่ทำแบบเดิมติดๆกันเดิน 3 วันเค้าจะชินนะจะบอกให้ เมื่อเค้าชินแล้วเค้าจะอยู่คนเดียวได้  ทีนี้แหละตัวเองจะหมดความสำคัญนะ  ฮึฮึ ไม่ได้ขู่.... 

Monday, January 09, 2012

โดดสอบ

เมื่อวานฝนมีสอบ แต่ไม่ไป เลวมาก เลวได้อีก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความรับผิดชอบขนาดนี้มาก่อน อยู่ๆก็ไม่ยอมไป  ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ นอนตื่น 4โมงเย็น ไม่กินข้าว ไม่ทำอะไรเพราะขี้เกียจ อยากนอน นอน แล้วก็นอนอย่างเดียวเลย ก็คิดนะว่าถ้าจะขี้เกียจขนาดนี้ลาออกจากงาน ไม่ต้องทำอะไรมาอยู่ให้ว่างๆ นอนตื่นสายๆ สักปีเอามั้ย เอาให้หายเบื่อไปเลย  ......

ไม่ชอบเวลาเป็นแบบนี้เลยอะ เหมือนกันหมดไฟแล้ว ไม่มีแรงจะทำอะไร ทำอะไรก็ค้างๆคาๆ ไม่เสร็จสักอย่าง ไม่รับผิดชอบ เช่นอ่านหนังสืออ่านก็อ่านไม่จบ เพชรพระอุมางี้เมื่อก่อนวันละเล่มยังไหว อาจจะเป็นเพราะว่างด้วย เอานะหลังๆ เดือนละเล่มแต่ปัจจุบัน สามเดือนแล้วยังไม่จบเล่ม เป็นไปได้ยังไงทั้งที่เวลาว่างยังเหมือนเดิม อ้อมีฟิศเนสอีกไปสมัครไว้ เมื่อก่อนไปเล่นทุกวัน หลังๆ อาทิตย์ละ 3 วัน ปัจจุบัน เดือนละครั้ง เซงมากไม่รับผิดชอบเลย ค่าสมัครก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆ เรื่องงานก็เฉื่อยๆ ทำงานช้า เบื่อตัวเองว่ะ ทำไมเป็นแบบนี้ ฉุยว่านี้มีอีกมั้ย เบื่อ.....

แล้วที่เขียนอยู่นี่ก็เวลางานนะ เออความรับผิดชอบไปอยู่ที่ไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ อร๊ายยย วันนี้ตั้งใจว่าจะไม่ไปทำงานสายอีกแล้วที่ผ่านมาเข้างานสายตลอด มีตั้งแต่ 5นาทีจนถึง 1ชั่วโมงเอ่ออเยอะไปนะ นึกว่าเป็นเจ้าของรึไงฟระ อย่าให้สาธยายเยอะเลย 5 วันก็ไม่จบ ....

เอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้เราจะตั้งใจและเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น ถ้ายังทำไม่ได้ ไม่รับผิดชอบเหมือนเดิม ก็ลาออกมาอยู่ให้สบายไม่ต้องทำมาหากิน ไม่ต้องเรียนต่อ ปล่อยให้โง่ไปเลย .....เข้าใจ๋

Friday, January 06, 2012

เมื่อเธอคือเพื่อนเรา แต่เราไม่ใช่เพื่อนเธอ

ถึงพี่หมีน้อยสุดที่รัก

วันนี้ไปอ่านกระทู้ในพันทิปมา เค้าคุยกันเรื่องมิตรภาพในเน็ต พี่หมีน้อยคิดว่ามันมีจริงๆมั้ย ส่วนตัวฝนเองฝนคิดว่ามีนะ ฝนเชื่อแบบนั้นเพราะฝนเองก็จริงจัง จริงใจ แล้วก็คิดว่าคนอื่นก็จะเป็นแบบฝนเหมือนกัน วันนี้ทำให้ฝนได้ฉุกคิดขึ้นมาว่า เอ๊ะนี่เราโลกสวยไปรึป่าว เรามองโลกในแง่ดีไปรึป่าว ฝนไปเจอคำพูดที่ว่า เธอคือเพื่อนชั้น แต่ชั้นไม่ใช่เพื่อนเธอ อ่านแล้วรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ทุกวันนี้ฝนคิดไปเองคนเดียว ว่าเค้าเป็นเพื่อนฝน ฝนอยากรู้จัก และคิดว่าเราน่าจะคุยกันได้ ฝนก็มานั่งคิดเป็นเพราะฝนเหงารึป่าว ทำให้โหยหาเพื่อน พี่หมีน้อยก็รู้ว่าฝนเป็นคนเพื่อนน้อย สนิทกับคนอื่นยาก ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้วฝนทุ่มเท และไว้ใจทุกอย่าง  การทีฝนไปขอเค้าเป็นเพื่อนฝนรอคำตอบนะ ฝนจริงจังไม่เล่นๆ เหมือขอเป็นแฟนเลยเนอะพี่หมีน้อย  พี่หมีน้อยคงอยากบอกฝนใช่มั้ยว่า ฝนก็ไปคุยกับเค้าซิ คุยกันเรื่อยๆเดี๋ยวก็สนิทกันเอง เป็นเพื่อนกันเอง ปัญหามันอยู่ที่ว่าฝนไม่กล้าคุย ฝนกลัวจะไปรบกวนเค้า ประมาณว่าไม่สนิทก็ไม่กล้าเล่นอะ  นึกออกมั้ย ....

มาถึงตอนนี้ฝนควรจะเลิกวิ่งตามแล้วแล้วใช่มั้ย เค้าไม่อยากเป็นเพื่อนกับฝนรึป่าว ทุกคนมีสิทธิเลือกใช่มั้ยว่าเค้าจะเป็นเพื่อนกับใคร และใครจะเป็นเพื่อนของเค้า ฝนเองต้องยอมรับ พี่หมีน้อยอาจจะคิดว่าฝนเยอะไปรึป่าว แค่เพื่อนจะอะไรนักหนา สำหรับฝนมันไม่ใช่แค่เพื่อนนะ แต่มันคือ "เพื่อน" ถ้าเป็นเพื่อนฝนแล้วฝนไม่เฟคใส่ คุยกันตรงๆ ฝนยินดีที่จะทำความรู้จักกับทุกคน และยินดีที่จะเป็นเพื่อนถ้าเค้าอยากเป็นเพื่อนกับฝน ถ้าเป้นเพื่อนกันแล้วไม่จริงจัง ไม่จริงใจก็เป็นคนรู้จักกันต่อไป 

(ทำใจได้หรอ?? ...จากพี่หมีน้อย )

Wednesday, January 04, 2012

ของขวัญ ของฝาก

วันนี้หลังเลิกงานพี่ที่เรารัก เอาตุ๊กตามาให้เลือกเป็นของฝาก พอดีพี่เค้าไปเที่ยวที่ออสเตรเลียตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนู้น ไปฮันนีมูนกันว่างั้น ...ชิชิ ตอนพี่เค้าไม่อยู่นี่วุ่นมากๆ เพราะเราต้องดูแลแทน เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ก็ตาม ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เล่ากันซะหน่อย

พี่สองคนนี้เค้าเป็นหัวหน้าเราเอง เรารักมากรักเหมือนพี่สาว พี่ชายเราเลย เค้าสอนเราทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องสังคม คอยเป็นที่ปรึกษาทุกเรื่องแม้เรื่องไร้สาระก็ไม่เกี่ยง 5555 เราเองไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนร่วมงานสักเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไม เมื่อก่อนเราก็เครียดว่าเอ๊ะนี่เราสนิทกับหัวหน้า มันจะทำให้เพื่อนๆเข้าใจผิดมั้ย เพื่อนๆจะไม่คบเรามั้ย ซึ่งมันก็จริง เพื่อนไม่ค่อยชวนเราเมาท์หรือนินทาอะไร เพราะเพียงว่าเราสนิทกับหัวหน้าเท่านั้น ซึ่งเราก็โอเคเบื่อจะนินทาคนอื่นลับหลังเหมือนกัน เช้ามาก็ด่ากัน เที่ยงกินข้าวเมาท์กันต่อ ปรับตัวไม่ทัน.งั้นขอบายดีกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะเป็นคนดีอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่าเราเป็นคนที่เกลียดแล้วเกลียดเลย ไม่นินทาแล้วมานั่งปั้นหน้าคุยกัน โอ้นอกเรื่องไปเยอะ เราทำงานที่นี่มาเข้าปีที่สองแล้ว เรารู้สึกได้ว่าเราโตขึ้นเยอะมากๆ เดิมทีเราเข้ามาในตำแหน่ง IT อยู่ไปก็ทำด้านการตลาดด้วย นานๆเข้าทำทุกอย่างจ้าซึ่งเราก็ชอบ 555 เราว่ามันไม่จำเจดี ตอนนี้เราดูงานในด้านนี้อยู่ห่างๆ ถ้าอะไรที่เกียวกับ IT เราก็จะให้น้องอีกคนทำ แล้วดูภาพรวมแทน แรกๆเราปรับตัวไม่ได้เลย วุ่นวายมาก ทำเองว่ายากแล้ว สั่งเพื่อนนี่ยากกว่าจริงๆ

เฮ้อ ช่างเถอะมันก็ต้องปรับตัวกันไป เอาเป็นว่าทุกวันนี้โอเคดี เรามาดูของฝากกันดีกว่า นอกเรื่องออกไปทะเลนู้นนน

ตัวไหนดี ตัวไหนดี น่ารักไปหมดอยากได้ทุกตัวเลย มีสิทธิ์เลือกก่อนเพื่อนนะเออ อิอิ เราอยู่นานมาก หยิบเข้าหยิบออกเล่นมันทุกตัวเลย 5555สุดท้ายเราก็เลือกตัวนี้จ้าาา

ที่เลือกตัวนี้เพราะจะให้มันเกาะที่คอมแบบนี้นี่แหละ น่ารักดี อีกอย่างจะได้เห็นทุกวันด้วย อ้อพี่ที่ให้มาเค้าเลือกให้ เค้าบอกว่าถ้าเลือกเป็นหมีโคล่า หรือจิงโจ้ ใครเห็นก็คงไม่ถามว่า ตัวอะไร ได้มาจากไหน เพราะมันเป็นซิกเนเจอร์ของที่นั่นอยู่แล้ว เจ้าตัวนี้เนี้ยใครเห็นก็ต้องถามแน่ๆ ตัวไรอะ ? แต่เราก็ไม่รู้ว่าตัวอะไร ชื่ออะไร 555 ตามหากันต่อไป

Sunday, January 01, 2012

NeW YeaR ณ.หัวหิน

สวัสดีปีใหม่ ย้าฮู้ ........
ปีใหม่ปีนี้เราไม่กลับบ้าน กะว่าจะหนีเที่ยวคนเดียวซะหน่อย ที่ไหนได้น้องเรากลับอยากขึ้นมาซะงั้น โอเค มาก็มาไปเที่ยวไหนดี .....น้องมาตั้งแต่วันที่ 28 ธค.แล้ว เราฮาน้อสองคนมากเลย น้องสาวเราคนเล็กอายุ 15 ส่วนน้องชาย 23 แล้ว น้องชายเราไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลย การมาครั้งนี้มันก็ตื่นเต้นมากๆ วันมาถึงเราก็ไปรับที่สนามบิน  ถามว่าเป็นไงบ้าง มนก็บอกตื่นเต้นดีเหมือนขึ้นรถไฟเหาะเลย และที่สำคัญมันบอกว่าหิวข้าวมากๆๆๆๆๆ  เราก็เอออทำไมหิวขนาดนั้น นั่งเครื่องมาแค่ชั่วโมงกว่าเอง มันบอกว่าม๊าไม่ให้กินข้าว กลัวมันอ๊วก 5555 เรานี่ขำเกือบเป็นเกือบตาย เราเลยพากันไปกินข้าวที่ร้าน ครัวประดิพัธ์ น้องเรากินใหญ่เลย กินไม่เหลือ จากนั้นก็พากันกลับห้องนอนหลับด้วยความเหนื่อย .....

วันที่ 30 ธค เราพาน้องไปหัวหิน ซึ่งทั้งสองคนก็ตื่นเต้นอีกแล้ว ตอนแรกก็กะว่าอยากพาไปนอนโรงแรมดีๆ สวยๆ สบายๆ แต่น้องเรามันออกแนวถ่อมตัว เจียมตัว ไม่เอาๆๆๆ เอาธรรมดาก็พอกลัวพี่มันจน  555 เราสามคนพี่น้องแบกเป้ไปกันคนละใบ ไปหาที่พักกันข้างหน้า ออกจากห้องไปตั้งแต่แปดโมงเช้า ไปถึงที่นู้นก็เที่ยง ก็แวะกินข้าวที่ "ร้านเจ๊กเปี๊ยะ" ซึ่งคนเยอะมากๆๆๆ ไม่รู้จะมากไปไหน




พอกินเสร็จก็จัดการเดินหาที่พัก ย้ำเดินหา น้องเรามันก็สู้ตาย เดินไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงหาด กระเป๋าก็หนัก อากาศก็ร้อน เราสงสารน่้องมาก ทั้งสองคนไม่เคยเที่ยวแบบนี้มาก่อน ส่วใหญ่จะเที่ยวแบบสบาย ก็เดินกันไปเรื่อยๆไปเจอที่นี่ "มด เกสท์เฮาส์" ราคาโอเค ไม่แพงมาก ห้องแอร์คืนละ 1000บาท บวกเพิ่มอีก 200 เพราะนอนสามคน







น้องเรามันก็บ่นนะ ประมาณว่าดูไมปลอดภัยเลย ก็อะไรก็ไม่ได้ ไม่ชอบ แต่จริงๆมันเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะนอนที่นี่ เนื่งจากไม่อยากเดินหาแล้ว น้องเราเป็นคนตัดสินใจเร็วแล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ซึ่งนิสัยแบบนี้เราไม่ชอบแลบ เราก็ไม่ย้าย จองไปเลย 2 คืน ดัดนิสัยมัน 555

เก็บข้าวของเสร็จก็พากันเดินไปทะเล ไปเล่นน้ำซึ่่งน้ำทะเลเย็นมากๆ ไม่รู้จะเย็นไปไหน สองพี่น้องเล่นกันจนไข้เลย







พอเล่นเสร็จก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนหลับ 555เหนือยจัด จากนั้นเราก็พาไปบู๊กันต่อที่ร้าน "บ้านใกล้วัง" เป็นร้านขนมเบเกอรี่ ที่ใครๆก็ว่าอร่อยไปแล้วต้องไปชิมให้ได้ เอาละซิเราเองก๋ไม่มีรถ เอาไงดี ก็พากันเดินออกจากที่พักถามทางไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอพี่วินคนนึง เค้าบอกว่าไม่ไกลหรอก จะเดินก็เดินได้ เดินไปเถอะ ชิวๆ เดินเล่นๆไป เรากับน้องหันมองหน้ากัน เอาไงดี เพราะตอนที่เราโทรไปถามที่ร้านว่าไปยังไง จากที่เราอยู่ เค้าบอกว่าไกลเหมือนกันนะ นั่งรถดีกว่า แต่หลังจากฟังพี่วินแล้วทำให้เราสามคนพี่น้องตัดสินใจได้ทันทีว่า ป่ะ เราเดินไปกัน .........






เดินไปไกลมากก็ยังไม่ถึง น้องเริ่มหน้าตาเครียด และบ่นว่าร้านอยู่ไหนเนี้ย แต่สำหรับเราเฉยๆนะเพราะวันๆนึงเราเดินเยอะอยู่แล้ว กว่าจะเดินมาถึงที่ร้านเล่นเอาขาลากจ้า












บรรยากาศแบบนี้เราชอบมาก อยากมีร้านแบบนี้บ้างอะ เป็นความฝันเลยอะมีร้านเค้กอยู่่ริมทะเล ลมพัดเบาๆ แดดอ่อนๆ อร๊าย ความสุขสุดๆ อยากนั่งที่นี่ทุกวันเลยไม่อยากหลับแล้ว .....หันไปดูหน้าน้องทั้งสองคน หมดสภาพจ้า 55555 ปลอบใจสั่งเค้กมาให้กิน  น่ากินทุกอย่างเลยอะ แตาเราว่าเมนูเค้าน้อยไปนิดนึงนะ แต่ก็เอาเถอะให้อภัย แอร๊ย ชอบอะ  เรากับน้องนั่งที่นี่นานพอสมควรเนื่องจากเหนื่อยมาก และเมื่อยมาก น้องมันก็ไม่ยอมจะลุก  เพราะขากลับต้องเดินกลับอีก เนื่องจากไม่มีรถโดยสารผ่านเลย นึกถึงขากลับแล้วอยากจะ T_T แต่ไม่มีทางเลือก


เป้าหมายต่อไปคือ "Cicada Market" เหนื่อยเป็นมั้ย น้องมันถาม???  น้องทั้งสองคนเริ่มหมดแรง หน้าเริ่มเหี่ยวๆ ไปถึงก็เดินไม่ไหว เหนือย สงสารมาก ก็เลยอยู่ได้ ไม่นานก็ต้องกลับ เนื่องจากง่วงนอนกันแล้วด้วย